เคล็ดลับความงาม: โภชนาการอย่างง่ายได้ผลชัวร์
1. กินกล้วยสักผลก่อนนอน ร่างกายจะได้รับโปแตซเซียม แมกนีเซียม กรดอะมิโน ทริพโตฟาน จะช่วยทำให้ง่วงเร็วและหลับสบาย 2. ผักชีไทยและผักชีฝรั่ง เป็นสมุนไพรพื้นบานที่มีคุณสมบัติขับปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมก่อนรอบเดือนที่มักจะสะสมบริเวณรอบเอว นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยในผักชียังเสริมประสิทธิภาพกรองของเสียในไตอีกด้วย ขายตุ๊กตา 3. ผูกมิตรกับกีวี เพราะนอกจากจะมีวิตามินซีมากเป็นสองเท่าของสัม มีกากใยเป็นสี่เท่าของเซเลอรี่ ยังเป็นแหล่งวิตามินอีและโพแทสเซียมที่ดีอีกด้วย 4. บร็อคโคลีเป็นผักที่มีคุณค่าสูง และมีส่วนประกอบของสารต้านมะเร็งที่ชื่อ ซัลโฟเรซ์ เพราะฉะนั้น หาวิธีปรุงตามชอบว่า จะนำไปผัด ใส่สลัด หรือต้มแต่ควรใช้เวลาต้มสั้น ๆ แค่ไม่กี่นาทีก็พอ 5. รับประทานซอสมะเขีอเทศได้มากเท่าที่พอใจ เพราะไลโคปีน ทำให้มะเขือเทศมีสีแดงสด ในซอสมะเขือเทศเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และจัดเป็นแหล่งไลโคปีนที่ดีกว่ามะเขือเทศสดอีกด้วย 6. ถึงแม้จะเป็นพิซซ่าสำเร็จรูป ก็ควรปรุงหน้าเพิ่มคุณค่าวิตามินและไฟเบอร์ ด้วยการเติมผักสด หรือผักแช่แข็งลงไป ก่อนจะใส่ในเตาอบ บางคนอาจจะใส่ข้าวโพดหวานหรือพริกฝานเป็นแว่นก็ง่ายและรวดเร็วดี 7. หันหลังให้ขนมขบเคี้ยวถุงๆ ไปกินถั่วแทน และควรเป็นชนิดไม่เติมเกลือ จึงจะได้รับโปรตีน กรดไขมันไม่อิ่มตัว และวิตามินอี ที่มีคุณค่าสูง 8. ควรใส่ใจพืชผลตระกูลเบอร์รี่ ทั้งบลูเบอร์รี่และบิลเบอร์รี่ ต่างก็มีอันโทไซอะนินส์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เชื่อกันว่าสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งช่วยให้ผิวกระชับ และยังมีรายงานอีกว่า บลูเบอร์รี่ ช่วยเรื่องการพัฒนาความจำในระยะสั้นได้ดี 9. ถ้ากินโยเกิร์ตสดใหม่ คุณจะได้รับโปรไบโอติกส์ (แบคทีเรียที่มีประโยชน์ ซึ่งช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง) เพราะฉะนั้น ควรสังเกตฉลากเพื่อเลือกโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียชนิดอะซิโดฟิลัส (Acidophilus) และบิฟิดิส (Bifidis) ที่จะช่วยทำให้แบคทีเรียในลำไส้สมดุล เหมาะสำหรับผู้หญิงที่เสียงต่อการติดเชื้อประเภทยีสต์ 10. ดื่มชาแทนการใช้ยาช่วยย่อยอาหาร โดยใช้วิธีจุ่มถุงชาขึ้นๆ ลงๆในถ้วยน้ำร้อน เป็นเวลา 1 นาที เพื่อให้ชาคายสารต้านอนุมูลอิสระออกมา 11. จะดื่มชาทั้งทีควรเลือกชาเขียวที่อุดมด้วยสารโพลีฟีนอลส์ ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระและป้องกันโรคหัวใจ รวมถึงโรคมะเร็ง อีกทั้งยังเชื่อว่าจะช่วยเร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ และต้านไขมันส่วนเกินได้เช่นกัน 12. คิดทบทวนหลายๆรอบ ก่อนตัดสินใจกินอาหาร ลดน้ำหนัก ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลสูงมาก หรืออาจจะแค่ลดปริมาณให้น้อยลงเท่านั้นเอง 13. ถ้าคุณต้องการของว่างที่ทำได้ง่ายในช่วงเวลาเร่งรีบ ลองสูตรน้ำปั่นที่ใส่กล้วยฝาน สตรอเบอรี่สด และโยเกิร์ตไขมันต่ำ 2 ช้อนโต๊ะดู หรืออาจจะเปลี่ยนสูตรผสมเพื่อให้เกิดรสชาติแปลกใหม่บ้างก็ได้ 14. รับประทานขนมปังเบเกิล กับแยมราสพ์เบอร์รี่แทนการทาครีมชีส ซึ่งมีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า ราสพ์เบอร์รี่ผ่านกรรมวิธีและเติมสารกันบูด จะทำให้สารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า 15. ว่ากันว่า ช็อกโกแลตสีขาว มีส่วนประกอบของไขมันพืชมากกว่าโกโก้ และมีคุณค่าน้อยกว่าช็อกโกแลตนม แต่ถ้าเป็นช็อกโกแลตสีน้ำตาลที่มีส่วนประกอบของโกโก้เข้มข้น แม้จะกินเพียง 2 ชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็จะได้รสชาติที่สะใจกว่าช็อกโกแลตนมเต็มแท่งที่มีราคาถูกกว่า 16. ทาขนมปังปิ้งหรือมัฟฟินด้วยเนยถั่วแทนเนยสด เพราะเนยถั่วมีไขมันไม่อิ่มตัวประเภทที่มีปริมาณคอเรสเตอรอลน้อยกว่า 17. ปรุงรสหวานให้ชาด้วยน้ำผึ้งแทนน้ำตาล เพราะน้ำผึ้งมีรสหวานตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้คุณสดชื่นได้ยาวนานกว่า และนี่คือเหตุผลที่ผึ้งพากันคลั่งไคล้ในน้ำผึ้งนัก 18. อย่าหลงกล Energy Bars เพราะบางชนิดก็มีแคลอรีสูงกว่าช็อกโกแลต ดังนั้น คุณเลือกประเภทที่มีกากใยสูง ไขมันและน้ำตาลต่ำ และน่าจะมีส่วนผสมอื่นๆ ที่มีคุณค่า เช่น ลูกเกด ถั่ว ซีเรียล หรือ กราโนลา 19. ถ้าคุณตัดใจจากน้ำสลัดครีมไม่ได้ ก็ควรใส่ถ้วยแยกไว้ต่างหาก และใช้ส้อมแตะน้ำสลัดก่อนจะนำไปจิ้มผักรับประทาน วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้รสชาติถูกปากโดยไม่เพิ่มแคลอรีเกินจำเป็น 20. แอปเปิลวันละ 3 ผลช่วยลดน้ำหนักได้นะค่ะ มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งจากสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ผู้ที่กินแอปเปิลก่อนอาหารทุกมื้อสามารถลดน้ำหนักได้เกือบ 10 กิโลกรัม ภายใน 3 เดือน ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากผิวแอปเปิลที่มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ 5 กรัม ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มก่อนอาหารมื้อหลัก และยังช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้อีกด้วย
|
![]() |
เลือกแว่นกันแดดให้เหมาะกับตัวคุณ |
วันที่: Tue May 13 00:18:51 ICT 2025
|
|
|